ลมหนาวปลายปี… เวลาแบบนี้มันชวนให้ “ไปแคมป์” เหลือเกิน

พอปลายปีเวียนมา ลมเย็น ๆ เริ่มพัดเข้าประเทศไทยแบบแผ่วเบาอากาศที่เคยร้อนอบอ้าวก็เริ่มนุ่มลงเช้า ๆ เปิดหน้าต่างที ก็ได้กลิ่นของฤดูหนาวลอยมาแบบบาง ๆ

ช่วงเวลานี้แหละครับ… ที่หลายคนเริ่มรู้สึกเหมือนกัน“อยากหายไปจากความวุ่นวายในเมืองสักพัก”

เสียงรถติดอีเมลที่เด้งไม่หยุดงานที่ตามมาจนถึงบนรถไฟฟ้าทุกอย่างมันดูแน่นไปหมด จนหัวใจเหมือนต้องการที่ว่างให้หายใจอีกครั้ง

แล้วภาพหนึ่งก็ผุดขึ้นมาในหัว…

เต็นท์หนึ่งหลัง – หมอกบาง ๆ – กาแฟร้อน ๆ ในมือ

ลองจินตนาการถึงตัวเองตื่นมาท่ามกลางอากาศเช้าที่เย็นพอดีเปิดเต็นท์ออกไปเจอวิวป่าสีเขียวเห็นไอหมอกค่อย ๆ ลอยผ่านยอดไม้

ไม่มีเสียงแตร ไม่มีเสียงรีบเร่งมีแค่เสียงลมพัดเบา ๆ กับกลิ่นดินชื้นจากค่ำคืนที่ผ่านมา

กดน้ำร้อนใส่แก้ว ชงกาแฟแบบเรียบง่ายแต่กลับรู้สึกอร่อยขึ้นอย่างประหลาดเพราะบรรยากาศมันดีจนทำให้ทุกอย่างมี “ความหมาย” มากกว่าเดิม

ค่ำคืนที่ฟ้าเต็มไปด้วยดาวแบบที่ในเมืองไม่มีวันเห็น

พอพระอาทิตย์ลับฟ้าไฟจากเมืองไม่มีให้รบกวนอีกยิ่งลึกเข้าไปในป่า… ท้องฟ้ายิ่งชัดดาวเต็มฟ้าที่เคยเห็นในรูป กลายเป็นของจริงที่อยู่ตรงหน้า

ล้อมวงกับเพื่อนหรือคนที่รักนั่งฟังเสียงฟืนแตกในกองไฟคุยกันแบบไม่ต้องเช็กเวลาหัวเราะแบบไม่ต้องคิดถึงวันพรุ่งนี้

ความสุขที่เรียบง่ายแบบนี้… เมืองให้ไม่ได้จริง ๆ

ทำไมปลายปีถึงเป็นช่วงที่เหมาะกับการแคมป์ที่สุด?

• อากาศเย็นกำลังดี นอนเต็นท์สบาย

• ป่ามีสีสันมากขึ้น ทั้งหมอก ทั้งลม ทั้งไอหนาว

• สมองได้พักจริง ๆ เพราะได้หลุดออกจากจอและเรื่องวุ่นวาย

• ทุกอย่างดู “ช้าลง” จนเราได้ฟังเสียงความคิดของตัวเองอีกครั้ง

บางทีคุณอาจไม่ได้ต้องการทริปหรูไม่ต้องการโรงแรมราคาแรงขอแค่สถานที่เงียบ ๆ ล้อมรอบด้วยธรรมชาติให้หัวใจได้พัก… แค่นั้นก็พอแล้ว

ปลายปีนี้ ลองพาตัวเองออกไปสูดอากาศอีกครั้ง

ชีวิตในเมืองมันไม่ผิดแต่ถ้าเหนื่อยเกินไปการหนีไปซบไอหมอกสัก 2–3 วันอาจเป็นของขวัญที่ดีที่สุดที่คุณให้ตัวเองได้

เก็บกระเป๋าหยิบเต็นท์ดึงคนที่อยากไปด้วยแล้วออกไปเจอฤดูหนาวที่สวยที่สุดของปี…ก่อนที่มันจะหายไปอีกครั้ง